หากต้องการเปลี่ยน permalink ของเว็บไซต์ WordPress สามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
เริ่มจากลงชื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ WordPress
คลิกที่ Settings
คลิกที่ Permalinks
เลือกรูปแบบของ permalink ใน Common Settings ตามต้องการ จากนั้นคลิกที่ Save Changes
- Plain – ใช้เลข id ของบทความมาต่อท้าย URL ของเว็บไซต์ โดยจะแสดงเป็น ชื่อโดเมน/?p=เลข id ของบทความ เช่น sanbox.com/?p=123
- Day and name – ใช้ วัน/เดือน/ปี ที่สร้างบทความ และชื่อบทความมาต่อท้าย URL ของเว็บไซต์ โดยจะแสดงเป็น ชื่อโดเมน/ปี/เดือน/วัน/ชื่อบทความ เช่น sandbox.com/2022/09/21/sample-post
- Month and name – ใช้ เดือน/ปี ที่สร้างบทความ และชื่อบทความมาต่อท้าย URL ของเว็บไซต์ โดยจะแสดงเป็น ชื่อโดเมน/ปี/เดือน/ชื่อบทความ เช่น sandbox.com/2022/09/sample-post
- Numeric – ใช้ archives และเลข id ของบทความมาต่อท้าย URL ของเว็บไซต์ โดยจะแสดงเป็น ชื่อโดเมน/archives/เลข id ของบทความ เช่น sanbox.com/archives/123
- Post name – ใช้ชื่อบทความ (slug) มาต่อท้าย URL ของเว็บไซต์ โดยจะแสดงเป็น ชื่อโดเมน/ชื่อบทความ (slug) เช่น sandbox.com/sample-post
- Custom Structure – กำหนดรูปแบบของ permalink ด้วยตัวเอง โดยการคลิกที่ tag ที่ระบบมีให้เลือก
- %year% – ปีที่เผยแพร่บทความ (แสดงเป็นปี ค.ศ.)
- %monthnum% – เดือนที่เผยแพร่บทความ (แสดงเป็นตัวเลข)
- %day% – วันที่เผยแพร่บทความ
- %hour% – เวลาที่เผยแพร่บทความ (แสดงเป็นหลักชั่วโมง)
- %minute% – เวลาที่เผยแพร่บทความ (แสดงเป็นหลักนาที)
- %second% – เวลาที่เผยแพร่บทความ (แสดงเป็นหลักวินาที)
- %post_id% – เลข id ของบทความ
- %postname% – ชื่อของบทความ (slug)
- %category% – ชื่อหมวดหมู่ (slug)
- %author% – ชื่อผู้เขียนบทความ
หมายเหตุ : การกำหนด permalink แบบ postname และ category จำเป็นต้องมีการตั้งค่า slug ให้กับ postname และ category เพิ่มเติมด้วย
ระบบจะแจ้งว่าได้อัปเดตรูปแบบ permalink ของเว็บไซต์แล้ว
หากต้องการเปลี่ยน slug URL ที่ส่วนอื่นๆ ของ WordPress ก็สามารถทำได้เช่นกัน