แก้ไขหน้าเว็บแล้วทำไมยังเหมือนเดิม

ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าคุณอัพโหลดไฟล์เว็บไซต์ไปแล้ว หรือแก้ไขอะไรไป และพอคุณไปกด Refresh แต่หน้าเว็บกลับไม่เปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ปัญหาแบบนี้เกิดได้จาก 3 สาเหตุด้วยกัน ดังนี้

1. Web Browser’s Cache
จะเรียกว่า Cache หรือ Temporary Internet Files ก็ได้ มันคือไฟล์ที่ตัวโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ของคุณเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อที่เวลาคุณเปิดดูเว็บเดิมซ้ำมันจะได้ไม่ต้องโหลดข้อมูลมาใหม่ทั้งหมด แต่สามารถดึงข้อมูลจากไฟล์ที่เก็บไว้ในเครื่องมาแสดงได้เลย. เว็บเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะมีคีย์ลัดเป็น Ctrl + F5 สำหรับสั่ง Refresh หน้าเว็บไซต์โดยที่จะโหลดไฟล์จากอินเตอร์เน็ตมาใหม่ โดยไม่เรียกใช้ไฟล์ Cache ที่เก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์

สรุป คือ ให้คุณลองกด Ctrl + F5 ที่หน้าเว็บไซต์ดู (อาจทำซ้ำสัก 2-3 ทีก็ได้) แต่ถ้าหน้าเว็บยังคงเหมือนเดิม แสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ Cache ในเว็บเบราว์เซอร์แล้ว

2. อัพโหลดผิดที่ (กรณีเว็บไซต์ HTML)
อันนี้เป็นปัญหาที่เกิดจากความเข้าใจผิด หรือพลั้งเผลอของผู้อัพโหลดเอง คือ อัพโหลดไฟล์ไปวางผิดที่ หรือไม่ก็ไฟล์อันใหม่ที่อัพโหลดขึ้นมาไม่ได้เป็นไฟล์ชื่อเดิมทำให้มันไม่ได้ไปทับไฟล์เก่า เป็นต้น. จริงๆ ปัญหามันมีได้หลายรูปแบบมากๆ เพราะมันแล้วแต่ว่าจะพลาดไปในลักษณะไหน

วิธีตรวจเช็คง่ายๆ คือ ให้คุณลองลบไฟล์ของหน้าที่คุณต้องการแก้ไขดู แล้วลองไป Refresh หน้าเว็บไซต์ โดยใช้ Ctrl + F5 (ตามข้อที่ 1.) ถ้าคุณพบว่าหน้าเว็บไซต์ของคุณยังแสดงได้ตามปรกติละก็ แสดงว่าคุณทำผิดแบบในกรณีนี้แล้ว ส่วนวิธีแก้นั้น คือ คุณจะต้องตรวจสอบ path และชื่อไฟล์ ใหม่ดีๆ ว่าที่ถูกต้องต้องเป็นอะไร

3. Website’s Cache (กรณีพวก CMS)
กรณีนี้เป็นที่ Cache ของโปรแกรมเว็บไซต์เอง สำหรับวิธีแก้ คือ ต้องไปสั่ง Clear Cache ในระบบจัดการเว็บไซต์ของคุณ (ปรกติมันจะมีให้สั่งได้อยู่แล้ว) หรือบางทีอาจจะปิดการใช้งานระบบ Cache ไปเลยก็ได้ (ถ้าโปรแกรมเว็บไซต์ของคุณสามารถตั้งได้)

Was this article helpful?

Related Articles