SQL Syntax


Database Tables

ฐานข้อมูลส่วนใหญ่มักมีตารางตั้งแต่หนึ่งตารางขึ้นไป แต่ละตารางจะถูกระบุด้วยชื่อ (เช่น “ลูกค้า” หรือ “คำสั่งซื้อ”) ตารางประกอบด้วยระเบียน (แถว) พร้อมข้อมูล

ในบทเรียนนี้ เราจะใช้ฐานข้อมูลตัวอย่าง Northwind ที่รู้จักกันดี (รวมอยู่ใน MS Access และ MS SQL Server)

ด้านล่างนี้คือการเลือกจากตาราง “ลูกค้า”:

CustomerIDCustomerNameContactNameAddressCityPostalCodeCountry
1
Alfreds FutterkisteMaria AndersObere Str. 57Berlin12209Germany
2Ana Trujillo Emparedados y heladosAna TrujilloAvda. de la Constitución 2222México D.F.05021Mexico
3Antonio Moreno TaqueríaAntonio MorenoMataderos 2312México D.F.05023Mexico
4
Around the HornThomas Hardy120 Hanover Sq.LondonWA1 1DPUK
5Berglunds snabbköpChristina BerglundBerguvsvägen 8LuleåS-958 22Sweden

ตารางด้านบนมีห้าระเบียน (หนึ่งรายการสำหรับลูกค้าแต่ละราย) และเจ็ดคอลัมน์ (รหัสลูกค้า ชื่อลูกค้า ชื่อผู้ติดต่อ ที่อยู่ เมือง รหัสไปรษณีย์ และประเทศ)


คำสั่ง SQL

การดำเนินการส่วนใหญ่ที่คุณต้องทำบนฐานข้อมูลนั้นทำด้วยคำสั่ง SQL

คำสั่ง SQL ต่อไปนี้ใช้เลือกระเบียนทั้งหมดในตาราง “ลูกค้า”:

ตัวอย่าง

คลิกที่นี่เพื่อเข้าไปดูตารางฐานข้อมูล

ในบทเรียนนี้ เราจะสอนคุณเกี่ยวกับคำสั่ง SQL ที่แตกต่างกัน

SQL ไม่คำนึงถึงขนาดตัวพิมพ์: selectเหมือนกับ SELECT


เครื่องหมายอัฒภาคหลังคำสั่ง SQL

ระบบฐานข้อมูลบางระบบจำเป็นต้องมีเครื่องหมายอัฒภาคที่ส่วนท้ายของคำสั่ง SQL ในแต่ละคำสั่ง

เครื่องหมายอัฒภาคเป็นวิธีมาตรฐานในการแยกแต่ละคำสั่ง SQL ในระบบฐานข้อมูลที่อนุญาตให้ดำเนินการคำสั่ง SQL มากกว่าหนึ่งคำสั่งในการเรียกไปยังเซิร์ฟเวอร์เดียวกัน

ในบทเรียนนี้ เราจะใช้เครื่องหมายอัฒภาคที่ส่วนท้ายของคำสั่ง SQL แต่ละคำสั่ง


คำสั่ง SQL ที่สำคัญที่สุดบางส่วน

  • SELECT– ดึงข้อมูลจากฐานข้อมูล
  • UPDATE– ปรับปรุงข้อมูลในฐานข้อมูล
  • DELETE– ลบข้อมูลออกจากฐานข้อมูล
  • INSERT INTO– แทรกข้อมูลใหม่ลงในฐานข้อมูล
  • CREATE DATABASE– สร้างฐานข้อมูลใหม่
  • ALTER DATABASE– แก้ไขฐานข้อมูล
  • CREATE TABLE– สร้างตารางใหม่
  • ALTER TABLE– แก้ไขตาราง
  • DROP TABLE– ลบตาราง
  • CREATE INDEX– สร้างดัชนี (คีย์ค้นหา)
  • DROP INDEX– ลบดัชนี