เมื่อมีการติดตั้งเว็บเซิร์ฟเวอร์และระบบได้เริ่มทำงานแล้ว ต้องติดตั้งระบบฐานข้อมูลเพื่อให้สามารถจัดเก็บและจัดการข้อมูลสำหรับไซต์ เราจะติดตั้ง MariaDB ซึ่งเป็นทางเลือกที่พัฒนาโดยโดย Oracle หากต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์นี้ ให้รันคำสั่ง เมื่อการติดตั้งเสร็จสิ้น คุณสามารถเปิดใช้งานและเริ่มต้นเซิร์ฟเวอร์ MariaDB ด้วย เพื่อรองรับความปลอดภัยของเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล ขอแนะนำให้เรียกใช้สคริปต์ความปลอดภัยที่มาพร้อมกับ MariaDB ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้า สคริปต์นี้จะลบการตั้งค่าเริ่มต้นที่ไม่ปลอดภัยบางส่วนและล็อคการเข้าถึงระบบฐานข้อมูล หากต้องการดำเนินการ สามารถใช้คำสั่งดังต่อไปนี้ หลังจากรันสคริปต์นี้จะเห็นว่าจะมีข้อความขอให้ป้อนรหัสผ่าน root ฐานข้อมูลปัจจุบัน คนละส่วนกับ รหัสผ่าน root ของระบบ ผู้ใช้ root ฐานข้อมูลคือผู้ใช้ที่เป็นผู้ดูแลระบบที่มีสิทธิ์ทุกอย่างของระบบฐานข้อมูล เนื่องจากคุณเพิ่งติดตั้ง MariaDB และยังไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าใดๆ รหัสผ่านนี้จะว่างเปล่า ดังนั้นเพียงกด ENTER ข้อความถัดไปจะถามว่า ต้องการตั้งค่ารหัสผ่าน root ฐานข้อมูลหรือไม่ เนื่องจาก MariaDB ใช้วิธีการรับรองความถูกต้องแบบพิเศษสำหรับผู้ใช้ root ซึ่งโดยทั่วไปจะปลอดภัยกว่าการใช้รหัสผ่าน คุณจึงไม่จำเป็นต้องตั้งค่านี้ในตอนนี้ พิมพ์ N แล้วกด ENTER จากนั้น คุณสามารถกด […]
Load Average ใน Linux คืออะไร
Load Average ใน Linux เป็นตัวชี้วัดที่ผู้ใช้งาน Linux ใช้เพื่อติดตามทรัพยากรระบบว่าใช้ไปกับอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ระบบทำงานหนักมากเกินไป ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเข้าใจว่าว่า Load Average ใน Linux คืออะไร พื้นฐานของ Load Average ใน Linux เพื่อให้เข้าใจถึง Load Average ใน Linux เราจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าโหลด (Load ) ในระบบ Linux โหลด คือ การวัดการใช้งาน CPU ในช่วงเวลาใดก็ตาม (กระบวนการที่ CPU ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันหรือกำลังรอการดำเนินการ) ปกติแล้ว ระบบที่ไม่ได้ใช้งานมีโหลดเป็น 0 แต่หากมี กระบวนการที่กำลังดำเนินการหรืออยู่ในรายการรอ โหลดจะเพิ่มขึ้น 1 การโหลดไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ แก่ผู้ใช้ เพราะโหลดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเสี้ยววินาที เนื่องจากจำนวนกระบวนการที่ใช้หรือรอเวลา CPU ไม่คงที่ […]
วิธีติดตั้ง Apache บน CentOS 8
เซิร์ฟเวอร์ Apache HTTP เป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในโลก มีคุณสมบัติมากมาย รวมถึงโมดูลที่สามารถโหลดได้แบบไดนามิก และมีการบูรณาการกับซอฟต์แวร์ยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการติดตั้ง แนะนำให้ ตั้งค่า server เบื้องต้นด้วย CentOS 8 ก่อน ขั้นตอนที่ 1 — ติดตั้ง Apache Apache มีอยู่ในซอฟต์แวร์เริ่มต้นของ CentOS ซึ่งหมายความว่าเราสามารถติดตั้งด้วยตัวจัดการแพ็คเกจ dnf 1และเนื่องจากเราได้สร้างผู้ใช้ที่ไม่ใช่ root ที่เรากำหนดค่าไว้ใน ตั้งค่า server เบื้องต้นด้วย CentOS 8 เราจึงต้องใช้คำสั่ง sudo ในการติดตั้งแพ็คเกจ Apache ด้วยคำสั่งต่อไปนี้ หลังจากยืนยันการติดตั้งแล้ว dnf จะติดตั้ง Apache และการขึ้นต่อกันที่จำเป็นทั้งหมด หากวางแผนที่จะกำหนดค่า Apache เพื่อแสดงเนื้อหาผ่าน HTTPS อย่าลืมว่าต้องเปิดพอร์ต 443 […]
ความแตกต่างของ Rocky Linux และ CentOS
การที่มี open-source software ที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้กับผู้คนและองค์กรจำนวนมากได้พัฒนาและปรับแต่งโปรแกรมต่าง ๆ ของตนได้ แม้ว่าทั้ง Rocky Linux และ CentOS จะเป็น Linux แบบ open-source แต่การจะเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย อาทิเช่น ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การสนับสนุนในการพัฒนาระบบ และทรัพยากรต่าง ๆ โดยที่บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่การเปรียบเทียบ Rocky Linux และ CentOS เท่านั้น Cent OS Cent OS Linux เป็น open-source ที่ใช้ซอร์สโค้ด RHEL (Red Hat Enterprise Linux) ที่ถูกสร้างขึ้นใหม่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งหมายความว่าซอฟต์แวร์ที่คอมไพล์สำหรับ RHEL จะทำงานบน CentOS โดยไม่มีการแก้ไขใดๆ CentOS ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและได้รับการยอมรับจากธุรกิจและหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง […]
การตั้งค่า server เบื้องต้นด้วย CentOS 8
เมื่อคุณสร้างเซิร์ฟเวอร์ CentOS 8 ใหม่เป็นครั้งแรก แนะนำให้เริ่มดำเนินการตามขั้นตอนการตั้งค่าพื้นฐานต่อไปนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและการใช้งานเซิร์ฟเวอร์ก่อน ขั้นตอนที่ 1 — เข้าสู่ระบบในฐานะ root ในการเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์จะต้องทราบที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์และจะต้องใช้รหัสผ่านหรือหากมีการติดตั้งคีย์ SSH สำหรับเพื่อยืนยันจะต้องใช้คีย์ส่วนตัวสำหรับบัญชีผู้ใช้ root หากยังไม่ได้เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ ให้เข้าสู่ระบบในฐานะผู้ใช้ root โดยใช้คำสั่งต่อไปนี้ (แทนที่ your_server_ip ด้วยเลขที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ที่คุณใช้งาน) อย่าลืมกด ยอมรับคำเตือนเกี่ยวกับความถูกต้องของโฮสต์หากปรากฏขึ้น หากใช้การตรวจสอบสิทธิ์ด้วยรหัสผ่าน ให้ระบุรหัสผ่านผู้ใช้ root เพื่อเข้าสู่ระบบ หากใช้คีย์ SSH ที่ได้รับการป้องกันด้วยข้อความรหัสผ่าน อาจได้รับแจ้งให้ป้อนข้อความรหัสผ่านในครั้งแรกที่คุณใช้คีย์ในแต่ละเซสชัน แต่ถ้าหากนี่เป็นครั้งแรกที่คุณเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ด้วยรหัสผ่าน คุณอาจได้รับแจ้งให้เปลี่ยนรหัสผ่าน root ด้วย ขั้นตอนที่ 2 — การสร้างผู้ใช้ใหม่ เมื่อคุณเข้าสู่ระบบในฐานะ root แล้ว คุณสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ใหม่ที่เราจะใช้เข้าสู่ระบบต่อจากนี้ไป ตัวอย่างนี้สร้างผู้ใช้ใหม่ชื่อ john ต่อมากำหนดรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก […]
วิธีลบการติดตั้ง Node.js บน Ubuntu 20.04
การที่จะถอนการติดตั้ง Node.js จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวิธีที่เราติดตั้ง หากติดตั้งด้วย apt ก็สามารถถอนการติดตั้งได้ดังนี้ ตามค่าเริ่มต้น apt Remove จะมีการเก็บไฟล์พื้นฐานในเครื่องที่สร้างขึ้นตั้งแต่การติดตั้ง หากไม่ต้องการบันทึกไฟล์เพื่อใช้ในภายหลัง ให้ใช้ apt purge หากติดตั้งด้วย nvm ขั้นแรกต้องตรวจสอบเวอร์ชั่นล่าสุดก่อนโดยใช้คำสั่งดังนี้ หากเวอร์ชันที่พบไม่ใช่เวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน สามารถเรียกใช้คำสั่ง คำสั่งนี้จะถอนการติดตั้ง Node.js เวอร์ชันที่เลือก หากเวอร์ชันที่ต้องการลบเป็นเวอร์ชันที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ต้องปิดใช้งาน nvm ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ โดยใช้คำสั่ง ตอนนี้สามารถถอนการติดตั้งเวอร์ชันปัจจุบันได้โดยใช้คำสั่งถอนการติดตั้งที่ก่อนหน้า การดำเนินการนี้จะลบไฟล์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Node.js เวอร์ชันที่กำหนด
วิธีการติดตั้ง Node.js บน Ubuntu 20.04
Node.js เป็น JavaScript Runtime สำหรับการเขียนโปรแกรมฝั่งเซิร์ฟเวอร์ ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟังก์ชันแบ็กเอนด์ที่ปรับขนาดได้โดยใช้ JavaScript ซึ่งเป็นภาษาที่หลายคนคุ้นเคยอยู่แล้วจากการพัฒนาเว็บบนเบราว์เซอร์ สำหรับคู่มือนี้จะแสดงให้เห็นถึงการติดตั้ง JavaScript 3 วิธีด้วยกัน วิธีที่ 1 – การติดตั้ง Node.js ด้วย Apt จากที่ค่าเริ่มต้น ปกติแล้ว Ubuntu 20.04 มีเวอร์ชันของ Node.js ที่เป็นค่าเริ่มต้นที่สามารถทดลองใช้เพื่อให้เราได้มีประสบการณ์ในการใช้งาน ซึ่ง ณ ขณะที่เขียนนี้เวอร์ชันที่มีคือ 10.19 ซึ่งจะไม่ใช่เวอร์ชันล่าสุด แต่มีความเสถียรและเพียงพอสำหรับการทดลองภาษาอย่างรวดเร็ว หากต้องการเรียกใช้งานเวอร์ชั่นนี้ สามารถพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ จากนั้น ติดตั้ง Node.js ตรวจสอบว่าติดตั้งสำเร็จไหม โดยใช้คำสั่ง หากแพ็คเกจเวอร์ชั่นนี้ตรงกับความต้องการ สิ่งที่ต้องทำคือตั้งค่า Node.js ซึ่งส่วนใหญ่จะต้องติดตั้ง npm ซึ่งเป็นตัวจัดการแพ็คเกจ Node.js ด้วย โดยสามารถทำได้โดยติดตั้งแพ็คเกจ npm ด้วย […]
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Ubuntu 20.04
Ubuntu คืออะไร Ubuntu เป็นระบบปฏิบัติการ open-source แบบเปิดโดยมีพื้นฐานมาจาก Linux distribution โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Canonical ในเรื่องของการอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Ubuntu ทุกรุ่นและดูแลพัฒนาอย่างต่อเนื่อง Ubuntu มีหลายรุ่น ได้แก่ คอร์เซิร์ฟเวอร์ และเดสก์ท็อป ซึ่งสามารถรันคำสั่งต่าง ๆ ในเครื่องหลายประเภท อาทิเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนตัว เซิร์ฟเวอร์ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ หรือใน cloud computing ทำไมถึงต้องใช้ Ubuntu Ubuntu ได้รับความนิยมด้วยเหตุผลหลายประการ และเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่ง Ubuntu ถือเป็น open-source ที่ตอบโจทย์และมีความปลอดภัยและใช้งานง่าย ความนิยมของซอฟต์แวร์ทำให้มีการพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมต่าง ๆ ได้ ทำให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานและสามารถปรับแต่งได้ง่าย การติดตั้ง Ubuntu ก่อนอื่น ต้องเริ่มจาก ตั้งค่า server เบื้องต้นด้วย Ubuntu […]
วิธีดูผู้ใช้ระบบใน Linux บน Ubuntu
พื้นฐานของการดูแลระบบคือ การกำหนดค่าและการจัดการผู้ใช้และกลุ่มของผู้ใช้งาน และหนึ่งในหน้าที่ของการดูแลระบบคือการตรวจสอบความสามารถในการเข้าสู่ระบบทั้งหมด โดยจะเริ่มจาก 1.วิธีการดูผู้เข้าใช้งานในระบบ ผู้ใช้ทุกคนบนระบบ Linux ไม่ว่าจะสร้างเป็นบัญชีของผู้ใช้หรือฟังก์ชันเฉพาะของระบบก็ตาม จะถูกจัดเก็บไว้ในไฟล์ชื่อ /etc/passwd ไฟล์ /etc/passwd จะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บนระบบ แต่ละบรรทัดอธิบายผู้ใช้ที่แตกต่างกัน โดยเราสามารถใช้คำสั่ง less เพื่อเลื่อนดูไฟล์ทั้งหมดได้ หากดูรายละเอียดเรียบร้อยแล้วต้องการออกจากการใช้งาน ให้พิมพ์ q ได้เลย และอีกวิธีคือการดูแบบไม่ต้องอ่าน /etc/passwd โดยใช้คำสั่ง cut เพื่อแยกตัวคั่นโคลอน (-d) จะเห็นตั้งแต่บัญชี root ซึ่งเป็นบัญชีผู้ดูแลระบบ และตอนท้ายจะเป็นบัญชีที่เราใช้งานอยู่ 2.วิธีดูกลุ่มที่มีอยู่ ไฟล์ที่เกี่ยวข้องสำหรับการค้นหาเกี่ยวกับกลุ่มของระบบคือ /etc/group โดยสามารถใช้คำสั่ง less เพื่อดูได้เลย อาจสังเกตเห็นว่าชื่อกลุ่มจำนวนมากมักจะสะท้อนถึงผู้ใช้ที่พบในระบบ นี่เป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบการกำหนดค่าที่เรียกว่ากลุ่มส่วนตัวของผู้ใช้หรือ UPG ซึ่งกลุ่มนี้จะช่วยให้มีความยืดหยุ่นในไดเร็กทอรีที่ใช้ร่วมกันโดยการตั้งค่าสถานะที่เรียกว่า setgid ซึ่งจะทำให้ไฟล์ภายในไดเร็กทอรีมีเจ้าของเป็นกลุ่มเดียวกันกับไดเร็กทอรีนั้นเอง เราสามารถใช้คำสั่ง cut เพื่อแยกตัวคั่นโคลอน (-d ) 3.วิธีค้นหาผู้ใช้ที่เข้าสู่ระบบ เราสามารถใช้คำสั่ง […]
วิธีจำกัดความสามารถในการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้บน Ubuntu
บทความนี้จะกล่าวถึงการจัดการระบบพื้นฐาน ในด้านการกำหนดค่าและการจัดการผู้ใช้ และการตรวจสอบสิทธิการเข้าถึงทั้งหมด 1.วิธีจำกัดการเข้าถึงด้วย /etc/passwd วิธีหนึ่งในการจำกัดความสามารถในการเข้าสู่ระบบคือการตั้งค่าเชลล์การเข้าสู่ระบบของบัญชีให้เป็นค่าพิเศษ ในตัวอย่างนี้คือผู้ใช้ messagebus จะสามารถใช้ grep เพื่อค้นหาภายในไฟล์ /etc/passwd ค่าสุดท้ายคือการรันคำสั่งเมื่อล็อกอินสำเร็จ ในกรณีนี้ ค่าจะถูกตั้งเป็น /usr/sbin/nologin หากพยายามเปลี่ยนไปใช้ผู้ใช้ Messagebus โดยใช้ sudo su จะเกิดความล้มเหลว เราจะได้รับข้อความนี้เนื่องจาก messagebus ถูกตั้งค่าเป็น /usr/sbin/nologin คุณสามารถใช้เครื่องมือ usermod เพื่อเปลี่ยนการเข้าสู่ระบบของผู้ใช้หลัก (โดยปกติคือ /bin/bash) เป็นผู้ใช้ที่ไม่มีอยู่จริง เช่น nologin เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เข้าสู่ระบบ 2.วิธีจำกัดการเข้าถึงด้วย /etc/shadow อีกวิธีหนึ่งในการจำกัดการเข้าถึงที่คล้ายกันคือการใช้ไฟล์ /etc/shadow ไฟล์นี้ประกอบด้วยค่ารหัสผ่านแบบ hash ซึ่งเป็นการเข้ารหัสแบบทางเดียวไม่สามารถถอดรหัสได้ ของผู้ใช้ทุกคนบนระบบ โดยสามารถใช้คำสั่ง Less เพื่อดูไฟล์ทั้งหมด บัญชีที่มีเครื่องหมายดอกจัน (*) แทนค่า hash […]