โปรแกมแต่งรูปฟรีที่ใช้แทน Photoshop ได้

Free photo editing program can replace Photoshop

สำหรับสายแต่งภาพ ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปร หลายคนคงรู้จักกับ Adobe Photoshop กันดี แต่ก็ต้องยอมรับว่า Photoshop มีค่าบริการรายเดือนที่แอบแรงอยู่ไม่น้อย ในบทความนี้เราเลยรวบรวมโปรแกรมแต่งรูปฟรีใช้งานง่าย หรือตัวที่มีฟีเจอร์ดี ๆ ที่แทบไม่ต่างจาก Photoshop มาฝาก

โปรแกรมที่ต้องติดตั้งลงเครื่อง

1. GIMP (GNU Image Manipulation Program)

โปรแกรมแต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่มีชื่อเสียงมายาวนาน สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ Photoshop ในหลายด้าน

จุดเด่น

  • Layer, Channel, Path และ Mask แบบมืออาชีพ
  • ปรับแสง สี เฉด และความคมชัดได้ละเอียด
  • ใช้งานปลั๊กอินเสริมและสคริปต์ต่าง ๆ ได้ เช่น Script-Fu, Python-Fu
  • รองรับหลายไฟล์ เช่น JPG, PNG, PSD, SVG, TIFF ฯลฯ
  • ใช้ได้ทั้ง Windows, macOS, และ Linux

2. Krita

โปรแกรมโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาสำหรับงานวาดภาพดิจิทัลโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะ Digital Painting, Concept Art, การ์ตูน หรือ Manga และมีอินเตอร์เฟซที่เป็นมิตรกับสายวาด

จุดเด่น

  • ระบบแปรงแบบ Advanced ปรับแต่งได้ทุกส่วน
  • มี Brush Engine หลากหลาย เช่น Pixel, Smudge, Sketch
  • รองรับเลเยอร์หลายประเภท พร้อม Blending Mode
  • รองรับ PSD และ OpenRaster
  • มีฟีเจอร์ Time-lapse, Animation, Stabilizer สำหรับงานวาดมือ
  • ใช้ได้บน Windows, macOS, Linux

3. Paint.NET

โปรแกรมแต่งรูปฟรีเฉพาะบน Windows ที่ใช้งานง่ายกว่า Photoshop หรือ GIMP มาก พร้อมฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็น เช่น เลเยอร์, เอฟเฟกต์ และเครื่องมือแก้ไขรูปภาพพื้นฐานครบถ้วน

จุดเด่น

  • รองรับ Layer และ History (ย้อนกลับได้หลายขั้น)
  • ฟิลเตอร์เบื้องต้น เช่น Gaussian Blur, Sharpen, Emboss
  • เครื่องมือ Selection, Clone Stamp, Magic Wand ใช้ง่าย
  • มีปลั๊กอินเสริมเพิ่มความสามารถ (เช่น เปิด PSD ได้)
  • ใช้งานฟรีสำหรับส่วนบุคคล และน้ำหนักเบามาก

โปรแกรมที่ใช้ผ่านเบราว์เซอร์ได้เลย

1. Photopea

โปรแกรมแต่งรูปบนเว็บที่หน้าตาและประสบการณ์ใช้งานคล้าย Photoshop มากที่สุด

จุดเด่น

  • รองรับ Layer, Mask, Adjustment Layer และ Smart Object
  • เปิดไฟล์ PSD, XD, Sketch, CDR, SVG, RAW ได้
  • มี Selection Tool, Clone, Brush, Text ฯลฯ
  • ใช้งานแบบออฟไลน์ได้ (ผ่านการแคชในเบราว์เซอร์)
  • ใช้งานได้ฟรี (มีโฆษณา หรืออัปเกรดเพื่อเอาโฆษณาออกก็ได้)

2. Pixlr

โปรแกรมแต่งรูปบนเว็บที่ออกแบบให้มีประสบการณ์การใช้งานใกล้เคียง Photoshop แต่มีความสะดวกเพิ่มเติมจากเครื่องมือ AI

จุดเด่น

  • อินเตอร์เฟซสวย ทันสมัย ใช้งานเร็ว
  • มี AI Tools เช่น ตัดพื้นหลังอัตโนมัติ
  • รองรับ Layer, Filters, Blending Mode
  • Import ไฟล์ได้ทั้งจากคอมพิวเตอร์และคลาวด์

3. Canva

โปรแกรมแต่งรูปบนเว็บที่ไม่ได้เน้นแต่งภาพขั้นสูง เหมาะกับงานออกแบบภาพเพื่อการตลาดหรือโซเชียลมีเดีย เช่น ปกเพจ โปสเตอร์ สไลด์ หรือ Stories ต่าง ๆ

จุดเด่น

  • มีเทมเพลตสวย ๆ ให้เลือกมากมาย
  • เครื่องมือลากวาง (Drag-and-Drop) ใช้งานง่าย
  • ตัดพื้นหลัง (เฉพาะ Pro) ปรับสี ใส่ข้อความ/ไอคอน ฯลฯ
  • ใช้งานร่วมกับทีม แชร์งานได้ง่าย
  • รองรับการใช้งานทั้งบนเว็บและแอปมือถือ

ตารางเปรียบเทียบสั้น ๆ

โปรแกรมใช้ผ่านเว็บติดตั้งเด่นเรื่องเหมาะกับใคร
GIMPWindows/macOS/ Linuxฟีเจอร์ครบแบบ Photoshopนักแต่งภาพจริงจัง
KritaWindows/macOS/ Linuxวาดภาพดิจิทัลนักวาด ศิลปินดิจิทัล
Paint.NETเฉพาะ Windowsเบา ใช้ง่ายมือใหม่หรือใช้งานทั่วไป
Photopeaใช้แทน Photoshopสายออกแบบทุกระดับ
Pixlrเร็ว ง่าย มี AIสายแต่งภาพเร็ว สวย ไว
Canva❌ (มีแอปมือถิอ)ออกแบบภาพโซเชียลสายคอนเทนต์/มาร์เก็ตติ้ง

สรุปแล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมแต่งรูปแค่ Photoshop เสมอไป โปรแกรมฟรีที่แนะนำไปในบทความนี้ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็นสายแต่งภาพจริงจัง สายวาดภาพดิจิทัล หรือสายทำคอนเทนต์โซเชียลต่าง ๆ ที่สำคัญคืออย่ากลัวที่จะลอง ทุกโปรแกรมที่แนะนำใช้งานได้ฟรีเลือกอันที่ใช่ แล้วสนุกไปกับการแต่งภาพในสไตล์ของคุณได้เลย

Was this article helpful?

Related Articles