บน CentOS 8 หลังจากการติดตั้ง php-fpm จะมีการสร้างไฟล์ที่ถูกกำหนดค่าโดยอัตโนมัติซึ่งจะทำให้เว็บเซิร์ฟเวอร์ Nginx สามารถจัดการไฟล์ .php ใน root เอกสารเริ่มต้นซึ่งอยู่ที่ตำแหน่ง /usr/share/nginx/html โดยที่เราไม่จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนแปลงการกำหนดค่าของ Nginx เพื่อให้ PHP ทำงานได้อย่างถูกต้องภายในเว็บเซิร์ฟเวอร์ การปรับเปลี่ยนเพียงอย่างเดียวที่เราจะทำคือเปลี่ยนการตั้งค่าการอนุญาตในโฟลเดอร์ root ของเอกสาร ด้วยวิธีนี้จะสามารถสร้างและแก้ไขไฟล์ในไดเร็กทอรีนั้นกับผู้ใช้ระบบปกติ โดยไม่จำเป็นต้องขึ้นต้นแต่ละคำสั่งด้วย sudo
คำสั่งต่อไปนี้จะเปลี่ยนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ root เอกสาร โดยในที่นี่ชื่อผู้ใช้และกลุ่มจะถูกเรียกว่า john ดังนั้นอย่าลืมเปลี่ยนชื่อผู้ใช้และกลุ่มในคำสั่งนี้เพื่อให้เป็นชื่อผู้ใช้และกลุ่มของระบบของคุณ
sudo chown -R john.john /usr/share/nginx/html/
ตอนนี้เราจะสร้างหน้าทดสอบ PHP เพื่อให้แน่ใจว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ทำงานตามที่คาดไว้
สร้างไฟล์ PHP ใหม่ชื่อ info.php ที่ไดเร็กทอรี /usr/share/nginx/html
nano /usr/share/nginx/html/info.php
โค้ด PHP ต่อไปนี้จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ PHP ปัจจุบันที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์
<?php
phpinfo();
เมื่อเสร็จแล้ว ให้บันทึกและปิดไฟล์
ตอนนี้เราสามารถทดสอบได้ว่าเว็บเซิร์ฟเวอร์ของเราสามารถแสดงเนื้อหาที่สร้างโดยสคริปต์ PHP ได้อย่างถูกต้องหรือไม่ ให้ไปที่เบราว์เซอร์ของคุณและเข้าถึงด้วยชื่อโฮสต์เซิร์ฟเวอร์หรือที่อยู่ IP ตามด้วย /info.php
http://server_host_or_IP/info.php
หลังจากตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเซิร์ฟเวอร์ PHP ของคุณเรียบร้อยแล้ว ทางที่ดีที่สุดคือลบไฟล์ที่สร้างขึ้น เนื่องจากมีข้อมูลที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนเกี่ยวกับ PHP และเซิร์ฟเวอร์ CentOS โดยสามารถใช้ rm เพื่อลบไฟล์นั้น
rm /usr/share/nginx/html/info.php
หลังจากนี้เราสามารถสร้างไฟล์นี้ใหม่ได้ตลอดเวลาหากต้องการ ต่อไป เราจะทดสอบการเชื่อมต่อฐานข้อมูลจากฝั่ง PHP