ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google

Factors affecting website ranking on Google

ในการทำ SEO (Search Engine Optimization) สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าใจว่า Google ใช้อะไรในการจัดอันดับเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว Google ได้พิจารณาจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ใช่แค่จากการใส่คีย์เวิร์ดลงไปเพียงอย่างเดียว สำหรับใครที่อยากให้เว็บไซต์ติดอันดับดี ๆ จำเป็นต้องใส่ใจกับปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

1. คุณภาพของเนื้อหา (Content Quality)

นับเป็นหัวใจหลักของการทำ SEO เลยก็ว่าได้ โดย Google นั้นจะชอบเนื้อหาที่

  • ตรงกับความต้องการของผู้ค้นหา เช่น ถ้าคนค้นหา “วิธีทำกาแฟดริป” ก็ควรเจอบทความสอนทำกาแฟ ไม่ใช่ขายเครื่องดริป
  • ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ โดยเฉพาะเนื้อหาที่เกี่ยวกับข่าว เทคโนโลยี หรือการเงิน
  • เนื้อหาเป็นต้นฉบับ หรือไม่ก็เขียนให้ดีกว่าของเดิมที่มีอยู่บนเว็บอื่น
  • มีความยาวที่เหมาะสม ไม่สั้นเกิน ไม่ยืดยาวเกินไป ขึ้นอยู่กับหัวข้อ
  • Backlinks (ลิงก์จากเว็บไซต์อื่น) สร้างลิงก์จากเว็บอื่นที่น่าเชื่อถือ (Backlinks)
  • Internal Links (ลิงก์ภายในเว็บ) ใส่ลิงก์เชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นภายในเว็บไซต์ (Internal Links)
  • Outbound Links (ลิงก์ออกไปเว็บอื่น) อ้างอิงแหล่งข้อมูลคุณภาพเมื่อจำเป็น (Outbound Links)

3. การใช้งานบนมือถือ (Mobile Usability)

ในยุคที่คนใช้อินเทอร์เน็ตผ่านมือถือมากขึ้น Google จึงให้ความสำคัญกับ Mobile Usability หรือการรองรับการใช้งานบนมือถือ เว็บไซต์ที่ออกแบบให้แสดงผลได้ดีบนจอเล็ก จะได้คะแนน SEO เพิ่มขึ้น

  • Responsive design (เว็บไซต์ปรับตามขนาดหน้าจอ)
  • ปุ่มกดง่าย ตัวหนังสือไม่เล็กเกินไป
  • โหลดหน้าเว็บได้เร็วบนมือถือ

4. ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ (Page Speed)

ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ (Page Speed) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนมองข้าม ทั้งที่จริงแล้ว Google ให้ความสำคัญไม่น้อยเลย เว็บที่โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้ออกทันที ซึ่งจะส่งผลต่ออันดับโดยตรง โดยคุณสามารถดำเนินการต่อไปนี้เพื่อเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ได้

  • บีบอัดรูปภาพ (ใช้ WebP หรือ TinyPNG)
  • เปิดใช้งาน Cache
  • ลดการใช้ JavaScript/CSS ที่ไม่จำเป็น
  • ใช้ Hosting ที่มีประสิทธิภาพดี
  • ใช้เครื่องมือเช็กความเร็วอย่าง PageSpeed Insights, GTmetrix ช่วยตรวจสอบ

5. โครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) และประสบการณ์ผู้ใช้ (UX)

Google จะเข้าใจเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้นถ้ามีการวางโครงสร้างที่ดี เช่น

  • ใช้ URL ที่อ่านง่าย เช่น example.com/seo-guide แทน example.com/page?id=123
  • มีเมนูนำทางที่ชัดเจน (Navigation)
  • ใช้ Breadcrumbs บอกตำแหน่งหน้าในเว็บไซต์
  • ทำแผนผังเว็บไซต์ (sitemap.xml)

6. การใช้คีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม (Keyword Optimization)

แน่นอนว่าคีย์เวิร์ดยังคงจำเป็นอยู่ แต่ต้องใช้งานให้เหมาะสม ดังนี้

  • หาคีย์เวิร์ดหลักของแต่ละหน้า เช่น โฮสติ้งราคาถูก
  • ใส่คีย์เวิร์ดในตำแหน่งสำคัญ เช่น ชื่อเรื่อง (Title Tag), หัวข้อย่อย (H1, H2), Meta Description, URL และย่อหน้าแรกของเนื้อหา เป็นต้น
  • หลีกเลี่ยงการใส่คีย์เวิร์ดเยอะเกิน (Keyword Stuffing)

7. ความปลอดภัยของเว็บไซต์ (HTTPS)

Google ได้ประกาศชัดว่าเว็บไซต์ที่มี SSL (เว็บไซต์ที่ขึ้นต้นด้วย https://) จะได้คะแนน SEO ที่ดีกว่า และผู้ใช้ก็จะรู้สึกปลอดภัยในการใช้งานด้วย

8. ความสดใหม่ของเนื้อหา (Freshness)

ถ้าเว็บไซต์มีการอัปเดตบทความหรือข้อมูลอยู่เสมอ จะช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์นี้ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ โดยเฉพาะในหัวข้อที่มีการเปลี่ยนข้อมูลอยู่บ่อย ๆ เช่น ข่าว เทคโนโลยี หรือการเงิน

  • อัปเดตเนื้อหาในบทความเก่าให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
  • เพิ่มเนื้อหาใหม่อย่างสม่ำเสมอ เช่น บทความรายเดือน
  • ลบหรือรวมหน้าเว็บที่ซ้ำซ้อนกัน

9. การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ (User Engagement)

Google จะคอยตรวจสอบและวิเคราะห์พฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้ใช้งานขณะเข้าชมเว็บไซต์ เช่น

  • อัตราการคลิก (CTR) – มีคนคลิกเข้าเว็บจากผลบนหน้าค้นหาหรือไม่
  • เวลาที่ใช้ในเว็บไซต์ (Time on Site) – คลิกเข้ามาแล้วอยู่ในเว็บนั้นนานไหม
  • อัตราเด้ง (Bounce Rate) – กดเข้าเว็บมาแล้วกดออกเลยหรือเปล่า

ทั้งหมดนี้จะสะท้อนว่าเว็บไซต์ของคุณตอบโจทย์ผู้ใช้หรือไม่ และส่งผลต่ออันดับเช่นกัน

10. ความเข้าใจของ Google ต่อหน้าเว็บ (Crawlability & Indexability)

Googlebot จะเข้ามาอ่านและเก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ของเรา เพื่อที่จะจัดอันดับให้กับเว็บไซต์ได้ถูกต้อง

  • อัปโหลด sitemap.xml ไปที่ Google Search Console
  • ตรวจสอบ robots.txt ว่าไม่มีการบล็อกหน้าเว็บสำคัญไว้
  • ใช้คำสั่ง noindex เฉพาะกับหน้าที่ไม่จำเป็นเท่านั้น

ควรให้ความสำคัญกับอะไรก่อน?

ปัจจัยความสำคัญจัดการยังไงได้บ้าง?
เนื้อหา⭐⭐⭐⭐⭐เขียนให้ตรงกับความต้องการ ตรงประเด็น และมีคุณภาพ
ลิงก์⭐⭐⭐⭐หาลิงก์จากเว็บที่น่าเชื่อถือ และทำลิงก์เชื่อมโยงภายในให้ดี
มือถือ
⭐⭐⭐⭐ใช้ Responsive Design
ความเร็ว⭐⭐⭐⭐ปรับภาพ ลดโค้ด เลือกใช้ Hosting ที่ดี
โครงสร้างเว็บ
⭐⭐⭐URL ชัดเจน เมนูใช้งานง่าย
คีย์เวิร์ด⭐⭐⭐ใช้แบบพอดี ไม่เยอะจนเกินไป
ความปลอดภัย⭐⭐ใช้ SSL
ความสดใหม่⭐⭐อัปเดตเนื้อหาให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
การมีส่วนร่วม⭐⭐จัดรูปแบบเนื้อหาให้น่าสนใจ อ่านง่าย
การให้บอทอ่าน⭐⭐มี sitemap และ robots.txt ที่ถูกต้อง

สรุปแล้วการทำ SEO ที่ได้ผล ไม่ใช่แค่การโฟกัสที่คีย์เวิร์ด แต่เป็นการดูแลเว็บไซต์ให้ครบทุกด้าน ทั้งเนื้อหา ประสบการณ์ผู้ใช้ ความเร็ว ความปลอดภัย และความเข้าใจของ Google โดยหากจัดการปัจจัยเหล่านี้ได้ครบทุกขั้น เว็บไซต์ของคุณจะมีอันดับที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่กำลังมองหา Web Hosting ที่คุ้มค่าและน่าเชื่อถือ hostatom พร้อมให้บริการ Web Hosting ที่เร็ว แรง เสถียร พร้อมทีมงานคนไทยคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์เล็กหรือใหญ่ เรามีโซลูชันที่ตอบโจทย์คุณ ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

Was this article helpful?

Related Articles