
เวลาที่เราจะเลือกแพ็กเกจโฮสติ้งหรือเช่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาเสมอก็คือ “ปริมาณข้อมูลที่สามารถรับส่งได้ (Data Transfer)” ซึ่งมักเรียกกันทั่วไปว่า “Bandwidth” แม้ตามหลักเทคนิคแล้วจะไม่ใช่คำเดียวกันก็ตาม
Data Transfer คืออะไร?
เวลาที่เราจะเลือกแพ็กเกจโฮสติ้งหรือเช่าเซิร์ฟเวอร์สำหรับเว็บไซต์ สิ่งหนึ่งที่ต้องพิจารณาเสมอก็คือ “ปริมาณข้อมูลที่สามารถรับส่งได้ (Data Transfer)” ซึ่งมักเรียกกันทั่วไปว่า “Bandwidth” แม้ตามหลักเทคนิคแล้วจะไม่ใช่คำเดียวกันก็ตาม
หน่วยที่ใช้คือ GB (กิกะไบต์) หรือ TB (เทราไบต์) ต่อเดือน โดยผู้ให้บริการโฮสติ้งจะกำหนดปริมาณสูงสุดตามแพ็กเกจที่คุณเลือก
เราควรใช้ Data Transfer เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับเว็บไซต์?
ในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเผื่อ Data Transfer ไว้แค่ไหน เราได้รวบรวมตัวอย่างการใช้ Data Transfer คร่าว ๆ สำหรับเว็บไซต์แต่ละประเภทไว้ดังนี้
1. เว็บไซต์ข่าว / บล็อก
เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นบทความและภาพประกอบ ใช้ Data Transfer ไม่สูงมาก หากมี pageview ประมาณ 5,000 – 10,000 ครั้งต่อเดือน และขนาดหน้าเฉลี่ย 1MB ควรเตรียมไว้สัก 5 – 20 GB/เดือน
2. ร้านค้าออนไลน์ (e-commerce)
เว็บไซต์ประเภทนี้มีภาพสินค้าจำนวนมาก และอาจมีวิดีโอรีวิวสินค้า หากมีสินค้าหลายร้อยรายการ + ปริมาณผู้ชมสูง ควรเผื่อไว้ประมาณ 30 – 100 GB/เดือน หรือมากกว่านั้น
3. เว็บไซต์สตรีมวิดีโอ / สื่อบันเทิง
เว็บไซต์ที่เน้นการดูวิดีโอออนไลน์ เช่น สื่อการเรียนรู้ คอร์สออนไลน์ หรือคอนเทนต์แบบ OTT จำเป็นต้องใช้ Data Transfer สูงมาก เช่น 100 GB – 1 TB/เดือน หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความยาวของวิดีโอและจำนวนผู้ชม
4. เว็บไซต์องค์กร / หน่วยงานราชการ
โดยทั่วไปเว็บไซต์เหล่านี้จะไม่ได้มีการใช้งานหนักมากนัก แต่ควรเตรียมไว้ประมาณ 5 – 50 GB/เดือน โดยดูจากจำนวนผู้เข้าชมหรือกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาใช้ข้อมูล
5. เว็บไซต์บริษัททั่วไป
หากเป็นเว็บไซต์แนะนำองค์กร มีหน้าเพจไม่เยอะ และไม่มีเนื้อหาหนัก เช่น วิดีโอ ควรเตรียม Data Transfer ไว้ประมาณ 10 – 30 GB/เดือน
ตารางเปรียบเทียบ Data Transfer โดยประมาณ
ประเภทเว็บไซต์ | Data Transfer (โดยประมาณ/เดือน) |
---|---|
ข่าว / บล็อก | 5 - 20 GB |
ร้านค้าออนไลน์ | 30 - 100 GB |
เว็บไซต์วิดีโอ | 100 GB - หลาย TB |
เว็บไซต์องค์กร / ราชการ | 5 – 50 GB |
เว็บไซต์บริษัททั่วไป | 10 – 30 GB |
เคล็ดลับในการจัดการ Data Transfer อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้ระบบแคชเพื่อลดการโหลดหน้าเว็บซ้ำซ้อน
- เปิดใช้งาน CDN (Content Delivery Network) เช่น Cloudflare
- บีบอัดรูปภาพก่อนอัปโหลดให้เล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- หลีกเลี่ยงการใส่วิดีโอไว้บนเซิร์ฟเวอร์เอง ให้ฝังจาก YouTube หรือ Vimeo แทน
การเลือกปริมาณ Data Transfer ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ จะช่วยให้คุณไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น และหลีกเลี่ยงปัญหาเว็บไซต์ช้าหรือโหลดไม่ได้เมื่อถึงขีดจำกัด หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณควรใช้ Data Transfer เท่าไหร่ hostatom ยินดีให้คำแนะนำฟรี
สนใจสอบถามเรื่องแพ็กเกจโฮสติ้ง และเลือก Data Transfer ให้เหมาะกับเว็บไซต์ของคุณได้ที่
https://www.hostatom.com/web-hosting