ทำอย่างไรเว็บถึงจะติดอันดับการค้นหาบน Google

สงสัยกันใช่ไหมล่ะ ทำเว็บแล้วทำไมเวลาไปค้นหาเว็บเราใน Google แล้วไม่เจอ ลองเช็คดูว่าเว็บที่คุณทำนั้นมีครบตามข้อต่อไปนี้หรือเปล่า

  1. เช็คดูให้ดีว่าเว็บได้เผยแพร่ในอินเทอร์เนตแล้ว หากยังไม่ออนก็ลองเช็คดูว่าโฮสติ้งที่คุณใช้งานอยู่ออนไลน์ไม่ล่ม ก่อนจะเลือกใช้บริการโฮสติ้งดูดีๆ ว่ามีความเสถียรและความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ถ้าจะให้ดีแนะนำเลยนี่ โฮสอะตอม ไม่ล่มแน่นอนการันตี Uptime ไม่ต่ำกว่า 99.9%
  1. นำเว็บคุณไปเชื่อมต่อกับ Google Search Console เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ว่าหน้าเพจใดมีคนเข้าดูมากที่สุด หน้าเพจใดที่มีคนเข้าชมนานที่สุด มีคนเข้าหน้าเพจใดเป็นหน้าสุดท้ายแล้วออกจากเว็บไซต์ของเรา หรือกดปิด Browser

    ข้อมูลเหล่านี้ทำให้เราได้รู้ว่าควรจะพัฒนาเนื้อหาในรูปไหน เน้นในเรื่องอะไร เพื่อวางแผนพัฒนาหรือสร้างเนื้อหาให้เหมาะกับผู้เข้าชมได้
  1. สร้างเนื้อหาใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ใช่นานๆ ครั้งแต่ยิ่งบ่อยยิ่งดี ซึ่งเนื้อหานั้นต้องมีประโยชน์สำหรับผู้ชมและกลุ่มลูกค้าที่เข้ามายังเว็บไซต์เราด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราทำเว็บขายประกันรถยนต์ เราก็อาจจะสร้าง blog ที่เกี่ยวกับการดูแลรถยนต์ วิธีเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน วิธีเช็คลมยาง ซึ่งมีเรื่องให้เขียนสารพัดอย่าง เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้รถยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าของเรา ให้เข้ามาที่เว็บไซต์เรา เมื่อคนเข้ามาเยอะ URL ของเราถูกเข้าชมเยอะขึ้น ถูกเอาไปพูดถึงใน social มากขึ้น bot search engine ก็จะตามมาเอง
  1. ใส่รูปลงในเว็บบ้าง Search Engine Bot ของ Google นั้นให้ความสำคัญกับรูปภาพที่มีบนหน้าเว็บมากกว่าเว็บที่ไม่มีรูปเลย ซึ่งรูปที่มีอยู่ในแต่ละหน้าเพจนั้นก็จะไปแสดงผลในหน้าค้นหา Google Image ด้วย แต่อย่างไรก็ดีขนาดของรูปก็ส่งผลต่อการโหลดหน้าเว็บนะ จะใส่รูปลงไปดูขนาดด้วยล่ะ

    อย่าลืมใส่ alt text ลงในรูป เพราะบางที Search Engine Bot มองไม่ออกว่ารูปนั้นคือรูปอะไร การใส่คำแทนค่ารูปจะช่วยให้ bot เข้าใจรูป และบริบทของข้อความที่สัมพันธ์กับรูปได้ดีขึ้น (แต่อย่า spam keyword ลงไปใน alt text เชียว เพราะแทนที่จะได้ผลดีกลับเป็นผลเสีย คิดจะหลอก bot อาจโดน bot ลงโทษได้)
  1. อย่าลืมใส่ Description และ Title ในแต่ละหน้าเพจด้วย เพราะมันจะช่วยในการจัดอันดับผลการค้นหาได้ และช่วยให้รู้ว่าลิงก์ของหน้าเพจใดจะถูกคลิก ส่งผลให้คนเห็นเว็บของคุณมากขึ้น
  1. ใส่ลิงก์ภายในเว็บเดียวกัน (Internal Link) ด้วย จะทำให้ Search Engine Bot ไต่ไปตามหน้าต่างๆ และเห็นถึงความเชื่อมโยงของข้อมูลในแต่หน้าหน้า page

    จุดประสงค์คือต้องการให้ bot วิ่งไปทุกหน้าที่มี แล้วทำสารบัญหน้าต่างๆ ให้ครบ มีการสร้างลิงก์จากหน้าเว็บไปยังหน้าอื่นๆ ในเว็บเดียวกันและลิงก์กลับไปยังหน้า home หรือหน้าที่เกี่ยวข้อง เพราะมันจะช่วยเพิ่มอันดับเว็บ

    ยกตัวอย่างเว็บไซต์ Wikipedia ที่มีการเชื่อมโยงคำสำคัญ สถานที่ หรือชื่อบุคคลที่มีอยู่ในเว็บไซต์ ไปยังคำอธิบายอีกหน้าเพจหนึ่ง แตกแยกย่อยจนกลายเป็นแหล่งการเรียนรู้ขนาดใหญ่ มี Keyword ชี้ไปยังหน้าที่มีความรู้ต่อๆ ไป เรื่อยๆ แบบนี้ Search Engine จะชอบมาก

    จากตัวอย่างเว็บ Wikipedia เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานกับเว็บไซต์ของเราได้ เช่นถ้า ทำเว็บเกี่ยวกับคนรักแมว แล้วมีบทความที่เกี่ยวกับสายพันธุ์ต่างๆ ของแมว ซึ่งเราก็จะสร้างลิงก์ที่คำของแต่ละพันธุ์ของแมวไปยังหน้าที่อธิบายลักษณะของสายพันธุ์นั้นๆ อย่างละเอียด เช่น แหล่งกำเนิด นิสัย การเลี้ยงดู ลักษณะขน แล้วถ้าในหน้านั้นมีคำว่าแมวขนสั้น เราก็จะสร้างลิงก์ Keyword ว่าแมวขนสั้นมีพันธุ์อะไรบ้าง ไปอีกหน้า เชื่อมโยงสัมพันธ์กันไปทั้งเว็บ
  1. เว็บไซต์ต้องรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย เช่นมือถือ แท็บเล็ต เป็นต้น จากสถิติที่รวบรวมของ statista ในปี 2021 มีการเข้าเว็บไซต์ผ่านทางมือถือมากกว่า 54.8% เลยนะ

    Search Engine Bot จะรู้ว่าเว็บไซต์ของเราแสดงผลในมือถือดีหรือไม่ ซึ่งหากแสดงผลในมือถือไม่ดี แล้วมีคนใช้มือถือทำการค้นหาแล้วพิมพ์คำหรือ Keyword ตรงกับเว็บไซต์ของเรา Search Engine Bot ก็จะไม่แสดงผลการค้นหาเว็บไซต์ของเรานะคะ เพราะเนื่องจากเว็บไซต์ไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ

    ถ้าอยากรู้ว่า เว็บไซต์ของเรารองรับการใช้งานบนมือถือหรือไม่ ให้ไปทำการทดสอบเว็บไซต์ได้ที่ Mobile-Friendly Test – Google Search Console
  1. ในศตวรรษที่ 4 โรมเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาก จนมีคำกล่าวที่ว่า “ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม” เช่นเดียวกันเพื่อให้เว็บเรายิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักมากขึ้น เราก็ควรสร้างเส้นทางหลายๆ เส้น ให้เข้ามาที่เว็บเราเหมือนกัน เพื่อให้เวลาที่ Search Engine Bot ไต่ผ่านไปที่เว็บหรือ Social ใดๆ เช่น Facebook, twitter เป็นต้น ก็เจอลิงก์ของเว็บไซต์ของเรา

    แต่ลิงก์ที่จะสร้างนั้นจะต้องมีบทความหรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ด้วยนะ ยิ่งมีการส่งลิงก์กระจายไปหลายๆ ที่หรือมีการแชร์เนื้อหานั้นเยอะๆ ก็จะมีเส้นทางเข้าเว็บไซต์เราหลายทางเช่นกัน
  1. ในกรณีที่เว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าขาย ก็อย่าลืมไปลงชื่อธุรกิจของคุณใน Google My Business ด้วย เพราะการที่คุณไปลงชื่อธุรกิจของคุณใน Google My Business แล้วมีคนค้นหาร้านค้าหรือบริการบน Google Map แล้วหากร้านค้าหรือบริการของคุณอยู่ใกล้ หรืออยู่ในพื้นที่ที่ลูกค้าเลือกค้นหา ข้อมูลหรือเว็บไซต์ของคุณก็จะแสดงขึ้นมา ทำให้คนคนนั้นมีโอกาสที่จะเป็นลูกค้าของคุณได้มากที่สุด

ลองตรวจสอบดูนะคะ ว่าเว็บไซต์ของคุณทำตามนี้ครบทุกข้อแล้วหรือยัง หากยังไม่ครบก็รีบทำให้ครบเสีย เพื่อให้ Google ค้นหาเว็บของคุณเจอ

แต่ถ้าคุณอยากรู้ว่าทำไม Google ค้นหาเว็บคุณไม่เจอ ให้มาอ่านได้ที่
ทำไม Google ค้นหาเว็บไม่เจอ

Was this article helpful?

Related Articles