Load Average ใน Linux คืออะไร

Load Average  ใน Linux เป็นตัวชี้วัดที่ผู้ใช้งาน Linux ใช้เพื่อติดตามทรัพยากรระบบว่าใช้ไปกับอะไรบ้าง เพื่อไม่ให้ระบบทำงานหนักมากเกินไป ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเข้าใจว่าว่า Load Average ใน Linux คืออะไร 

พื้นฐานของ Load Average ใน  Linux

เพื่อให้เข้าใจถึง Load Average ใน Linux เราจำเป็นต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าโหลด (Load ) ในระบบ Linux โหลด คือ การวัดการใช้งาน CPU ในช่วงเวลาใดก็ตาม (กระบวนการที่ CPU ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันหรือกำลังรอการดำเนินการ) ปกติแล้ว ระบบที่ไม่ได้ใช้งานมีโหลดเป็น 0 แต่หากมี กระบวนการที่กำลังดำเนินการหรืออยู่ในรายการรอ โหลดจะเพิ่มขึ้น 1

การโหลดไม่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ใดๆ แก่ผู้ใช้ เพราะโหลดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในเสี้ยววินาที เนื่องจากจำนวนกระบวนการที่ใช้หรือรอเวลา CPU ไม่คงที่ นี่คือเหตุผลที่ต้องใช้ Load Average ใน Linux เพื่อตรวจสอบการใช้ทรัพยากร

ทำความรู้จักกับ Load Average ใน Linux

Load average แสดงให้เห็นโหลดเฉลี่ยบน CPU สำหรับช่วงเวลาที่กำหนด ค่าเหล่านี้คือกระบวนการที่รอใช้งาน CPU หรือใช้งานในช่วงเวลาที่กำหนด ปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับเปอร์เซ็นต์การโหลดที่แสดงในระบบ Windows แต่ค่าเฉลี่ยการโหลดใน Linux จะแสดงเป็นค่าทศนิยมสามค่าที่แตกต่างกัน

ดูภาพด้านบนซึ่งมีข้อความว่า “Load average: 0.26, 0.18, 0.07”

จากซ้ายไปขวา:

  • ค่าแรกแสดงถึงโหลดเฉลี่ยบน CPU ในนาทีสุดท้าย
  • ค่าที่สองแสดงให้เห็นถึงค่าโดยเฉลี่ยในช่วง 5 นาทีสุดท้าย
  • ค่าที่สามคือค่าโหลดเฉลี่ย 15 นาที

สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ใช้ทราบว่าถึงกระบวนการต่างๆ บนระบบที่ใช้งาน แม้ว่าโหลด 1 อาจหมายถึงการใช้ทรัพยากรประมาณ 100% บนระบบ single processor แต่ระบบดังกล่าวแทบไม่มีอยู่จริงในปัจจุบัน เว้นแต่ว่าไม่ได้อัพเกรดระบบมานานกว่าทศวรรษ ปกติแล้วระบบควรทำงานบน  multi-core processor

สำหรับ dual-core processor โหลด 1 หมายความว่า 1 core  ไม่ได้ใช้งาน 100% จะใช้งาน CPU ประมาณ 50% ขณะที่  quad-core processor จะแสดงถึงการใช้งาน CPU 25% อย่างไรก็ตาม แนวคิดดังกล่าวเป็นการประมาณเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรสามารถกำหนดได้จากอัตราส่วนของค่าเฉลี่ยการโหลดต่อจำนวน core ของ processor แม้ว่าจะไม่ใช่ค่าที่แน่นอนสำหรับการใช้งาน CPU ในช่วงเวลาที่กำหนด แต่ก็มีประโยชน์สำหรับการตรวจสอบทรัพยากร

วิธีตรวจสอบค่าเฉลี่ยการโหลดใน Linux

การตรวจสอบ Load Average ใน Linux สามารถตรวจสอบได้ด้วย 3 วิธีดังต่อไปนี้

1. การใช้คำสั่ง uptime

คำสั่ง uptime เป็นหนึ่งในวิธีการทั่วไปในการตรวจสอบค่าเฉลี่ยการโหลดสำหรับระบบของคุณ หากต้องการใช้คำสั่ง uptime เราเพียงแค่เปิดบรรทัดคำสั่งแล้วพิมพ์ข้อความต่อไปนี้

uptime

ข้อมูลนี้จะแสดงระยะเวลาที่ระบบของเราใช้งานได้ พร้อมด้วยจำนวนผู้ใช้งานและค่าเฉลี่ยการโหลดสำหรับระบบของเรา จากรูปจะเห็นค่าเฉลี่ยการโหลดในนาทีสุดท้ายคือ 0.26 ในช่วงห้านาทีและสิบห้านาทีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยการโหลดคือ 0.18 และ 0.07 ตามลำดับ

2. การใช้คำสั่ง top 

อีกวิธีหนึ่งในการตรวจสอบ Load Average บนระบบ คือการใช้คำสั่ง top  ใน Linux เพียงเปิดเทอร์มินัลแล้วพิมพ์สิ่งนี้

top

คำสั่งนี้จะต่างจากคำสั่ง uptime ตรงที่ให้มุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรสำหรับระบบ

จากภาพ อย่างที่เห็นในบรรทัดบนสุด ค่าเฉลี่ยการโหลดในนาทีสุดท้ายคือ 0.19 ในช่วงห้านาทีและสิบห้านาทีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยการโหลดคือ 0.18 และ 0.07 ตามลำดับ

3. การใช้เครื่องมือ glances

เครื่องมือ glances  เป็นเครื่องมือตรวจสอบระบบที่ทำงานคล้ายกับคำสั่ง top  โดยจะให้ภาพรวมโดยละเอียดเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรระบบ หากต้องการใช้เครื่องมือ glances  บนระบบ คุณต้องติดตั้งแพ็คเกจโดยใช้คำสั่งนี้

sudo apt-get install glances

เมื่อคุณติดตั้งเสร็จแล้ว ให้พิมพ์ข้อความต่อไปนี้ในเทอร์มินัลของคุณ

glances

จากรูป นี่จะเป็นการเปิดหน้าต่างการมองเห็นในเทอร์มินัลของคุณ ต่างจากคำสั่ง top ตรงที่ให้จำนวนแกนประมวลผลที่พร้อมใช้งานพร้อมกับค่าเฉลี่ยโหลดสำหรับระบบของคุณ ดังที่คุณเห็นในพื้นที่ที่ไฮไลต์ ค่าเฉลี่ยการโหลดในนาทีสุดท้ายคือ 0.11 ในช่วงห้านาทีและสิบห้านาทีที่ผ่านมา ค่าเฉลี่ยการโหลดคือ 0.03 และ 0.01 ตามลำดับ

Was this article helpful?

Related Articles