อยากเปลี่ยนผู้ให้บริการ Web Hosting ต้องทำอะไรบ้าง?

Change my Web Hosting provider

การเปลี่ยนผู้ให้บริการ Web Hosting นั้นไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่ใครหลายคนคิด หากมีการวางแผน และทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง โดยเราจะมาแนะนำขั้นตอนในการย้ายบริการ Web Hosting เดิมไปยังที่ใหม่อย่างปลอดภัย พร้อมข้อควรระวังเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

1. เลือกผู้ให้บริการใหม่

หาผู้ให้บริการ Web Hosting รายใหม่ โดยพิจารณาจากความต้องการของเว็บไซต์ เช่น

  • พื้นที่เก็บข้อมูล
  • ปริมาณ Bandwidth 
  • ความเร็วของเซิร์ฟเวอร์
  • การรองรับ CMS เช่น WordPress, Joomla
  • ระบบความปลอดภัย
  • การซัพพอร์ต
  • แพ็กเกจและราคาที่เหมาะสม

เมื่อเลือกผู้ให้บริการใหม่ได้แล้ว ให้สมัครใช้งานและเตรียมความพร้อมสำหรับการย้ายข้อมูล

2. สำรองข้อมูลจากผู้ให้บริการเดิม

ก่อนดำเนินการใด ๆ ควรทำการสำรองข้อมูล (Backup) ทั้งหมดจากโฮสต์เดิมให้ครบถ้วน เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายระหว่างการย้ายโฮสต์ โดยประกอบด้วย

  • ไฟล์เว็บไซต์ทั้งหมด (HTML, CSS, JavaScript, รูปภาพ และอื่น ๆ)
  • ฐานข้อมูล เช่น MySQL, MariaDB หรือ PostgreSQL
  • อีเมล (หากใช้งานผ่านบริการของโฮสต์เดิม)
  • การตั้งค่า DNS และ SSL Certificate เพื่อให้สามารถใช้งานเว็บไซต์บนโฮสต์ใหม่ได้โดยไม่สะดุด

3. อัปโหลดข้อมูลไปยังโฮสต์ใหม่

หลังจากเตรียมข้อมูลเรียบร้อย ให้อัปโหลดไฟล์เว็บไซต์ไปยังโฮสต์ใหม่ผ่านโปรแกรม FTP (เช่น FileZilla, WinSCP) หรือ File Manager ที่มาพร้อมกับ Control Panel ของผู้ให้บริการ Web Hosting รายใหม่ (เช่น cPanel, DirectAdmin, Plesk) จากนั้นก็

  • Import ฐานข้อมูลผ่าน phpMyAdmin หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่โฮสต์ใหม่มีให้
  • แก้ไขไฟล์ config ของเว็บไซต์ (เช่น wp-config.php) ให้ชี้ไปยังฐานข้อมูลใหม่

4. ตั้งค่า DNS ให้ชี้ไปยังโฮสต์ใหม่

เมื่อทุกอย่างถูกอัปโหลดเรียบร้อยแล้ว ให้เปลี่ยนค่า DNS ของโดเมนให้ชี้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ใหม่ โดยขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาประมาณ 24–48 ชั่วโมงในการอัปเดตทั่วโลก

หมายเหตุ: ระหว่างรออัปเดต DNS ควรงดการอัปเดตเว็บไซต์ชั่วคราว เพื่อป้องกันข้อมูลไม่ซิงก์กันระหว่างโฮสต์เดิมและโฮสต์ใหม่

5. ทดสอบเว็บไซต์หลังการย้าย

หลังจาก DNS อัปเดต และเว็บไซต์เริ่มทำงานจากโฮสต์ใหม่แล้ว ให้ตรวจสอบการทำงานต่าง ๆ ของเว็บไซต์โดยละเอียด เช่น

  • เปิดหน้าเว็บไซต์จากอุปกรณ์ และเบราว์เซอร์ต่าง ๆ
  • ตรวจสอบการเชื่อมต่อฐานข้อมูล
  • ทดสอบฟังก์ชันหลักของเว็บไซต์ เช่น ระบบสมาชิก ฟอร์มติดต่อ ระบบชำระเงิน ฯลฯ
  • ตรวจสอบสถานะ SSL ว่าใช้งานได้ปกติ หากไม่ ให้ติดตั้งใหม่บนโฮสต์ใหม่

6. ยกเลิกบริการกับผู้ให้บริการเดิม

เมื่อมั่นใจว่าเว็บไซต์ทำงานบนโฮสต์ใหม่ได้อย่างสมบูรณ์และไม่มีข้อมูลตกหล่นแล้ว คุณสามารถยกเลิกบริการกับผู้ให้บริการเดิมได้อย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังในการย้าย Web Hosting

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลทั้งหมดถูกสำรองไว้อย่างครบถ้วนก่อนเริ่มกระบวนการย้าย
  • หากเว็บไซต์มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ควรแจ้งล่วงหน้าเพื่อเตรียมความพร้อม
  • ตรวจสอบและย้ายบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น อีเมล, ระบบสำรองข้อมูล, CDN, Cron Jobs หรือ API ต่าง ๆ

ทางเลือกที่สะดวกกว่า : ให้ผู้ให้บริการช่วยย้าย

หากคุณไม่สะดวกดำเนินการย้าย Web Hosting ด้วยตนเอง คุณสามารถสอบถามผู้ให้บริการรายใหม่ว่ามีบริการย้ายข้อมูลให้หรือไม่ ซึ่งหลายรายมีบริการนี้ฟรี รวมถึง hostatom ที่พร้อมให้บริการย้ายเว็บไซต์ฟรี ไม่มี Downtime พร้อมดูแลโดยทีมงานมืออาชีพตลอด 24 ชั่วโมง

Was this article helpful?

Related Articles