
เคยสงสัยไหมว่าทำไมทำเว็บไซต์แล้ว แต่คนค้นหาใน Google กลับไม่เจอ? SEO (Search Engine Optimization) คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ WordPress ของคุณติดอันดับบน Google เพิ่มทั้งคนเข้าเว็บและโอกาสทางธุรกิจ บทความนี้เราจะพาไปดูทีละขั้นตอนตั้งแต่การเลือกปลั๊กอิน ไปจนถึงการทำให้เว็บไซต์ Mobile Friendly
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้งปลั๊กอิน SEO
แนะนำปลั๊กอินยอดนิยม:
- Yoast SEO
- Rank Math
- All in One SEO Pack
ฟีเจอร์ที่ควรมี:
- ตั้งค่า Title & Meta
- วิเคราะห์เนื้อหา
- XML Sitemap อัตโนมัติ
- Breadcrumbs
ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าโครงสร้างลิงก์ (Permalink)
จากตัวอย่างนี้จะเป็นส่วนหลังบ้านของ W
ไปที่ Settings > Permalinks
แนะนำให้ใช้โครงสร้างแบบ/%postname%/
เพื่อให้ URL สั้น อ่านง่าย และมีคำสำคัญ (Keyword)

ขั้นตอนที่ 3: ปรับแต่ง Title และ Meta Description
- เขียน Title ไม่เกิน 60 ตัวอักษร และมี Keyword
- เขียน Meta Description ไม่เกิน 160 ตัวอักษร
👉 อธิบายเนื้อหาให้ดึงดูด พร้อมคำค้นที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนที่ 4: ใช้ Heading (H1, H2, H3) อย่างเหมาะสม
- H1: ใช้เพียง 1 ครั้ง ต่อ 1 หน้า (ควรเป็นชื่อบทความ)
- H2, H3: ใช้แบ่งเนื้อหาให้เป็นลำดับ อ่านง่าย
ขั้นตอนที่ 5: ใส่ Alt Text ให้รูปภาพ
ทุกภาพควรมี คำอธิบาย (alt text) ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและมีคำค้นหลัก เพื่อให้ Google เข้าใจภาพ และแสดงผลใน Google Images
ขั้นตอนที่ 6: ทำ Internal Link & External Link
- Internal Link: ลิงก์ไปยังบทความอื่น ๆ ในเว็บไซต์
- External Link: ลิงก์ไปยังเว็บที่น่าเชื่อถือ เช่น Wikipedia, หน่วยงานราชการ
ขั้นตอนที่ 7: ตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์
- ใช้เครื่องมือ เช่น PageSpeed Insights, GTmetrix
- ปรับภาพให้เบา ใช้ WebP
- ใช้โฮสติ้งเร็ว เช่นที่ให้บริการโดย hostatom
ขั้นตอนที่ 8: สร้าง Sitemap และส่งให้ Google
- ปลั๊กอิน SEO จะสร้าง XML Sitemap ให้อัตโนมัติ หรือดูการสร้างได้ที่ วิธีการสร้าง sitemap.xml ด้วย XML Sitemap Generator
- ส่ง Sitemap ผ่าน Google Search Console
👉 https://search.google.com/search-console
ขั้นตอนที่ 9: ตั้งค่า Mobile Friendly
- เลือกธีมที่ Responsive คือ ธีมที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามขนาดของหน้าจอหรืออุปกรณ์ที่ใช้ เช่น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป
- ตรวจสอบด้วย Mobile-Friendly Test
👉 https://search.google.com/test/mobile-friendly
ขั้นตอนที่ 10: วิเคราะห์ผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ใช้เครื่องมือเช่น:
- Google Search Console → ตรวจอันดับคำค้น
- Google Analytics → ดูพฤติกรรมผู้ใช้
- Yoast SEO Analysis / Rank Math Score → ช่วยวิเคราะห์บทความแบบรายหน้า
การทำ SEO บน WordPress ไม่ใช่เรื่องซับซ้อน หากเริ่มต้นจากโครงสร้างที่ถูกต้อง ใช้ปลั๊กอินที่เหมาะสม และค่อยๆ ปรับแต่งทีละจุด เว็บไซต์ของคุณก็สามารถขึ้นสู่หน้าแรก Google ได้ไม่ยาก
ทำ SEO บน WordPress ให้มีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากโฮสติ้งที่ดี
hostatom ให้บริการ Web Hosting ความเร็วสูง รองรับ WordPress 100%
- รองรับ LiteSpeed และ SSD
- ฟรี SSL พร้อมระบบความปลอดภัย
- ทีมซัพพอร์ตคนไทยช่วยแก้ไขปัญหา
📌 ดูแพ็กเกจ Hosting สำหรับ WordPress ได้ที่
👉 บริการ WordPress Hosting ราคาถูก แรง บริการเจ้าดังในไทย