Google Meet ฟรี vs เสียเงิน

หากถามมีโปรแกรมอะไรบ้างที่ใช้สำหรับประชุมแบบ video conference หรือ ระบบแชทคุยกันในองค์กร แน่นอนว่า คำตอบที่ได้จะต้องมี Google Meet อยู่ด้วยแน่นอน แล้วทีนี้รู้ไหมว่า Google Meet แบบฟรีกับแบบเสียเงิน ต่างกันอย่างไร

Google Meet คือ

Google Workspace หรือชื่อเดิมก็คือ Google Hamgout Meet เป็น ฟีเจอร์หนึ่งของ Google Workspace ซึ่งมีไว้ใช้สำหรับการสื่อสารโดยเฉพาะ อย่างเช่นการประชุมออนไลน์ (Video Conference) ไม่ว่าจะในองค์กรหรือนอกองค์กรก็ได้ เพียงแค่คุณมีอินเตอร์เนตก็สามารถใช้งานได้ทันที ยิ่งใครมีบัญชีอีเมลที่เป็น gmail อยู่แล้วก็สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ฟรี หรือใครที่ใช้ Google Workspace แบบเสียเงิน ไม่ว่าจะเป็น Package ใดก็ตาม ก็สามาารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เหมือนกันนะคะ

อุปกรณ์ที่ใช้กับ Google Meet

ในการใช้งาน Google Meet อุปกรณ์ที่ต้องใช้งานได้แก่ Webcams (กล้อง), หูฟังและไมโครโฟน และอุปกรณ์เสริมที่ใช้สำหรับการประชุม ซึ่งสามารถดูอุปกรณ์ต่างๆ ที่ทาง Google รองรับในการใช้งานได้ที่ Google Meet Hardware

เปรียบเทียบ Google ฟรี กับเสียเงิน

ที่นี้เรามาดูกันว่า Google ฟรีกับแบบเสียเงินแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งสามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

จากตารางด้านบนจะเห็นได้ว่า Google Meet แบบฟรีจะจำกัดผู้เข้าร่วมประชุมอยู่ที่ 100 คนและระยะเวลาการประชุม 1 ชั่วโมง ซึ่งต่างกับ Google Meet แบบเสียเงินโดยการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมจะแตกต่างกันไปตามแต่ละ Package รวมไปถึงระยะเวลาในการประชุมทุก Package จะอยู่ที่ 24 ชั่วโมง

ตารางเปรียบเทียบฟีเจอร์ Google Meet ระหว่าง แบบฟรีกับแบบเสียเงิน

ความปลอดภัย

เนื่องจาก Google Meet เป็นฟีเจอร์ของ Google ดังนั้นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยจึงไม่ต้องกังวลไป เพราะ Google มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมอยู่แล้ว

โดยปกติแล้ว Google Meet จะถูกตั้งค่าให้มีการเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดในระหว่างการส่งข้อมูล ไม่ว่าคุณจะใช้งานผ่านอุปกรณ์ใด หรือใช้งานที่ไหน Google จะบันทึกการประชุมทั้งหมดเก็บไว้ ที่ Google Drive แม้ว่าจะไม่มีการใช้งานไฟล์วิดีโอนั้น การเข้าถึงก็ยังต้องได้รับการเข้ารหัสอยู่ดี มั่นใจได้เลยว่าข้อมูลของคุณปลอดภัยแน่นอน

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านเทคนิค Google Meet ได้ปฏิบัติตามมาตรฐาน Internet Engineering Task Force (IETF) security standards for Datagram Transport Layer Security (DTLS) and Secure Real-time Transport Protocol (SRTP) ซึ่งสามารถดูรายละเอียดในส่วนนี้ได้ที่ Google Meet Security & Privacy for users

การ Support

สำหรับผู้ที่ใช้งาน Google Meet แบบฟรี จะไม่ได้รับการ Support แบบส่วนตัว แต่ก็ยังสามารถรับการ Support ได้ผ่านทาง Google Help Center ในนั้นคุณสามารถพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ ที่คุณพบ และสามารถเข้าถึงเอกสารต่างๆ ตั้งแต่วิธีเริ่มใช้งาน การเข้าร่วมประชุมไปจนถึงวิธีการใช้งาน Google Meet ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ

สำหรับใครที่ใช้งาน Google Meet แบบเสียเงิน นั่นหมายถึงคุณใช้งาน Google Workspace ซึ่งนอกจากคุณจะสามารถเข้าไปไปใช้งานที่ Google Help Center ได้แล้ว คุณยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของ Google ได้ตลอด ยิ่งคุณใช้งาน Google Workspace กับทางโฮสอะตอมคุณสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุดเลยนะคะ

ข้อดีและข้อเสียของ Google Meet

ข้อดีของ Google Meet

  • สามารถใช้งานได้ทุกที่ สะดวกสบาย
  • เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน
  • สามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่มีบัญชีอีเมลของ Google ก็สามารถใช้งาน Google Meet ได้แล้ว
  • เมื่อใช้งาน Google Meet แล้ว ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นอื่นเพิ่มเติม รวมไปถึงคุณภาพของภาพและเสียงก็ดีมากๆ โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมอีกด้วย
  • สามารถทำทุกอย่างในระหว่างแชทได้ ไม่ว่าจะแชร์หน้าจอ หรือแชร์ไฟล์ สามารถทำได้เพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น
  • บริการ Google Meet มีแบบฟรีด้วย แม้ว่าฟังก์ชันการใช้งานไม่เยอะเท่าแบบเสียเงิน แต่ก็สามารถใช้งานได้ดีเลยทีเดียว
  • การใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก

ข้อเสียของ Google Meet

  • จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม

จะเห็นได้ว่า Google Meet แทบจะไม่มีข้อเสียเลย อีกทั้งยังถูกออกแบบเพื่อให้ใช้งานง่าย ถึงแม้จะไม่เคยใช้งาน ก็สามารถใช้งาน Google Meet ได้เลย ซึ่งหากเป็นผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถใช้งานแบบฟรีก็ได้ แต่หากเป็นระดับองค์กรแนะนำว่าควรใช้ Google Meet แบบเสียเงินจะดีกว่า เพราะสามารถตอบโจทย์ในการทำงานหลายๆ ด้านได้

สำหรับใครที่สนใจบริการ Google Meet แบบเสียเงิน ทางโฮสอะตอมก็มีบริการนะคะ โดยสามารถดูรายละเอียดของบริการ Google Workspace ได้ที่ https://www.hostatom.com/google-workspace/

Was this article helpful?

Related Articles