การออกแบบเว็บไซต์ที่สวยงามและใช้งานง่ายเป็นสิ่งสำคัญ แต่หากเว็บช้า อืด รอนาน และโหลดช้าก็อาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและไม่อยากกลับมาอีก ดังนั้นจะเน้นที่ความสวยงามอย่างเดียวไม่ได้
ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงข้อผิดพลาดในการออกแบบเว็บ และบอกวิธีหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านั้น เพื่อให้เว็บของคุณนั้นสามารถใช้งานง่าย และตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามาดูกันว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง
1. เว็บไซต์โหลดช้า
ความเร็วในการโหลดเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการรักษาผู้ใช้งาน หากหน้าเว็บไซต์โหลดช้าเกินไป ผู้ใช้จะรู้สึกหงุดหงิดและอาจออกจากเว็บไซต์ก่อนที่โหลดเสร็จ

2. การออกแบบที่ไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ
ปัจจุบันผู้คนใช้อุปกรณ์มือถือในการเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น หากเว็บไซต์ของคุณไม่ได้รับการออกแบบให้รองรับการใช้งานบนมือถือ อาจทำให้ผู้ใช้เกิดความไม่สะดวกในการเข้าถึงข้อมูล เช่น ต้องซูมเข้า ซูมออก หรือเลื่อนซ้ายขวาเพื่ออ่านเนื้อหาที่แสดงบนหน้าจอ อาจทำให้ผู้ใช้เลือกออกจากเว็บไซต์ไป โดยไม่กลับมาอีก ดังนั้น หากคุณไม่ปรับปรุงให้เว็บไซต์ของคุณใช้งานง่ายบนมือถือ คุณอาจเสี่ยงที่จะสูญเสียผู้เข้าชมแทบทั้งหมดไปเลย!
วิธีแก้ไข
- ใช้ Responsive Design เพื่อให้เว็บไซต์ปรับตัวได้ตามขนาดหน้าจอ
- ทดสอบเว็บไซต์บนอุปกรณ์ต่างๆ เช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อให้มั่นใจว่าแสดงผลได้ถูกต้อง
- ปรับขนาดปุ่มและลิงก์ให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ
- ใช้ CSS Grid และ Flexbox อย่างถูกต้อง
3. เมนูลึกลับซับซ้อน
เว็บไซต์ไม่ใช่เกมซ่อนหานะคะ ไม่จำเป็นต้องซ่อนเมนู บางเว็บนี่ต้องเลื่อนไปจนสุดกว่าจะเจอเมนู หรือซ่อนไว้ใต้ปุ่มหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บที่มองแทบไม่เห็น จนต้องซูมหรือเพ่งมองดีๆ ถึงจะเห็น
วิธีแก้ไข
- วางเมนูในตำแหน่งที่ชัดเจนและมองเห็นได้ง่าย
- ออกแบบเมนูให้เป็นลำดับ หมวดหมู่
- ใช้ไอคอนหรือป้ายที่ดูแล้วรู้เลยว่านี่คือเมนู
- ออกแบบเมนูให้สามารถแสดงผลได้ทุกอุปกรณ์
4. ข้อมูลที่ไม่อัปเดต
บางคนทำเว็บเสร็จแล้วก็แล้วไป ไม่มีการอัปเดตข้อมูลให้ทันสมัย หรือข้อมูลเว็บเก่าไปแล้วไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย ส่งผลให้คนเข้ามาดูครั้งเดียวแล้วก้อหายไปเลย ไม่กลับมาอีก เปรียบเสมือนกับร้านค้าที่วางสินค้าเก่าหรือปิดกิจการไปแล้ว แต่ยังคงแสดงป้ายโฆษณาหรือข้อมูลเดิม ๆ
วิธีแก้ไข
- คอยอัปเดตข้อมูลเว็บไซต์อยู่เสมอ
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกครั้งก่อนเผยแพร่
- เพิ่มระบบแจ้งเตือนหรือหมั่นตรวจสอบเมื่อมีข้อมูลที่ต้องอัปเดต
5. ขาดการใช้พื้นที่ว่าง (Whitespace) อย่างเหมาะสม
พื้นที่ว่างมีบทบาทสำคัญในการทำให้เว็บไซต์ดูโปร่งและอ่านง่าย การใช้พื้นที่ว่างที่ไม่เหมาะสม หรือการจัดวางเนื้อหาหรือกราฟิกมากเกินไป จะทำให้เว็บไซต์ดูรกและไม่สบายตา
วิธีแก้ไข
- อย่าใส่ข้อมูลในส่วนเดียวจนเยอะเกินไป
- เพิ่มระยะห่างระหว่างข้อความและ องค์ประกอบต่างๆ ให้เหมาะสม พอดี ไม่ห่าง ไม่ชิดจนเกินไป
- แยกบรรทัด และขอบเขตของเนื้อหาแต่ละส่วนให้ชัดเจน
6. การใช้ Pop-up ที่มากเกินไป
การใช้ Pop-up ที่เยอะเกินไป มารัวๆ เป็นปืนกลแบบนี้ แทนที่จะน่าสนใจ กลับสร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ กว่าจะได้อ่านเนื้อหาต้องมานั่งปิด Pop-up เหล่านี้ ส่งผลให้ผู้ใช้ไม่อยาก
วิธีแก้ไข
- ใช้ Pop-up เท่าที่จำเป็น อย่าเยอะจนเกินไป
- กำหนดเวลาหรือความถี่ในการแสดง อย่าให้ถี่เกินไป
- ผู้ใช้สามารถปิด Pop-up ได้ง่าย
- ควรใช้ Pop-up เพียงในบางหน้าไม่ใช่ทุกหน้า
7. ใช้ฟอนต์และสีที่ไม่เหมาะสม
การเลือกใช้ฟอนต์หรือสีที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผู้ใช้ไม่สามารถอ่านเนื้อหาได้ง่าย ไม่สบายตา หรือทำให้เว็บไซต์ดูไม่น่าสนใจ ควรเลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านง่าย และ สีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างพื้นหลังและข้อความเพื่อให้การอ่านข้อมูลสะดวก
วิธีแก้ไข
- เลือกฟอนต์ที่อ่านง่าย
- หลีกเลี่ยงการใช้สีที่สดเกินไปหรือฟอนต์ที่อ่านยาก
- ใช้ขนาดของฟอนต์ที่เหมาะสม (แนะนำ ไม่ควรต่ำกว่า 16px)
- ทดสอบลองอ่านบนอุปกรณ์หลายๆ ขนาด
8. การออกแบบที่ไม่คำนึงถึง SEO (Search Engine Optimization)
การออกแบบเว็บไซต์ที่ไม่รองรับการทำ SEO อาจทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับการค้นหาใน Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เปรียบเหมือนเปิดร้านในซอยที่ลึกลับ ไม่มีป้ายบอกทาง ทำให้ลูกค้าหาร้านไม่เจอ ดังนั้นต่อให้เว็บคุณดีแค่ไหน ค้นหาไม่เจอ ก็ไม่ประโยชน์
วิธีแก้ไข
- ใช้คำหลัก (keywords) ที่เกี่ยวข้องในเนื้อหาของเว็บไซต์
- ใช้แบบ URL ให้สั้นและมีความหมาย
- เพิ่มคำบรรยาย (alt text) ให้กับภาพทุกภาพ
- สร้างลิงก์ภายในเว็บไซต์เพื่อเชื่อมโยงหน้าเพจต่างๆ
9. การขาดการทดสอบเว็บไซต์
ก่อนที่จะเผยแพร่เว็บ อย่าลืม!! ทดสอบเว็บไซต์ก่อน เพราะบางครั้งเราอาจมองไม่เห็นข้อผิดพลาดในตอนที่ออกแบบ แต่พอเอาไปใช้งานจริงเกิดปัญหา
วิธีแก้ไข
- ทดสอบเว็บไซต์ในหลายเบราว์เซอร์และหลายๆ อุปกรณ์
- ตรวจสอบความเร็วการโหลดหน้าเว็บ
- ทดสอบฟังก์ชันต่างๆ อย่าง ลิงก์และแบบฟอร์ม เป็นต้น
- ฟังคำแนะนำจากผู้ใช้งานจริง หรือสอบถามความเห็นเพื่อปรับปรุงเว็บ
- ทำ A/B เพื่อเปรียบเทียบการออกแบบและฟังก์ชัน
10. ไม่รองรับการเข้าถึง (Accessibility)
การออกแบบเว็บที่ไม่รองรับการเข้าถึง (Accessibility) ทำให้ผู้ใช้ที่มีความต้องการพิเศษ เช่น ผู้พิการทางสายตาหรือการเคลื่อนไหว ไม่สามารถใช้งานได้เต็มที่
วิธีแก้ไข
- ออกแบบให้รองรับการใช้งานผ่านทางแป้นพิมพ์
- สร้างเว็บให้รองรับโปรแกรมช่วยอ่าน
- จัดทำคำอธิบายเสียง (audio description) สำหรับเนื้อหาวิดีโอ
- ใช้ฟอนต์ที่อ่านง่ายและสามารถปรับขนาดได้
การออกแบบเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ และสิ่งที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เช่น เว็บไซต์โหลดช้า หรือไม่รองรับการใช้งานบนมือถือ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ไม่พึงพอใจและอาจออกจากเว็บไซต์ไป
การเลือกโฮสติ้งที่มีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการทำงานของเว็บไซต์ เช่น hostatom ที่มอบบริการโฮสติ้งที่มีความเร็วสูงและรองรับการออกแบบเว็บไซต์ที่ตอบสนองต่อการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโหลดเร็วและมีประสิทธิภาพในการให้บริการผู้ใช้งาน