Google AI Overview ทำ SEO เปลี่ยนไปแค่ไหนกันแน่?

Google AI Overview How Much Has SEO Changed

เมื่อ Google เปิดตัว AI Overview (AIO) หรือที่หลายคนคุ้นชื่อเดิมว่า SGE – Search Generative Experience โลกของ SEO ก็ไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป

เพราะก่อนหน้านี้ หากต้องการคำตอบ ผู้ใช้ต้องคลิกเข้า “เว็บไซต์” เพื่ออ่านข้อมูล แต่วันนี้ Google ใช้ AI สรุปคำตอบให้ทันทีบนหน้าผลการค้นหา แบบที่ผู้ใช้ไม่ต้องคลิกไปไหน นั่นหมายความว่า Traffic ของหลายเว็บไซต์กำลังลดลงแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

คำถามคือ…
👉 แล้วเว็บไซต์ไทยจะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน?
👉 SEO ต้องเปลี่ยนวิธีทำหรือไม่?
👉 AI Overview จะมาแทนการค้นหาแบบเดิมจริงหรือ?

บทความนี้จะสรุปทุกอย่างให้ท่านแบบอ่านจบแล้วเข้าใจภาพทั้งหมดทันที

AI Overview คืออะไร? ทำงานอย่างไร?

AI Overview คือการแสดงผลการค้นหารูปแบบใหม่ที่ Google ใช้ โมเดล Gemini ประมวลผลคำถาม แล้วสรุปคำตอบที่ “เข้าใจง่ายและตรงประเด็น” ให้ผู้ใช้ทันที

AI Overview ทำงานแบบนี้:

  1. Google เข้าใจ เจตนา (Intent) ของคำค้น
  2. ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น ข่าว, เว็บรีวิว, เว็บความรู้
  3. Gemini วิเคราะห์ + สรุป + เรียบเรียงเป็นคำตอบ
  4. แสดงผลด้านบนสุดของหน้า (เหนือเว็บไซต์ทุกเว็บ)

ทำให้เกิดปรากฏการณ์:

  • ผู้ใช้ อ่านคำตอบบนหน้าแรกทันที
  • ไม่ต้องคลิกเว็บไซต์
  • เว็บไซต์ที่เคยได้คลิกจำนวนมาก อาจ traffic ลดลง 20–60%

ตัวอย่างเช่น:

ค้นคำว่า “ใส่เลขหน้าใน word online โดยหน้าคำนำไม่ต้องมีเลขหน้า
SGE จะสรุปเป็นขั้นตอนการตั้งค่า ดังภาพ

แล้วผลกระทบ SEO คืออะไร? (สำคัญมาก)

ผลกระทบที่เห็นชัดเจน

  • CTR ลดลงทันที เพราะผู้ใช้ได้คำตอบจาก AI Overview
  • บางคำค้นถูก “AI ตอบให้เลย” เช่นวิธีใช้สินค้า, วิธีทำอาหาร, ข้อมูลทั่วไป
  • คอนเทนต์แบบ How-to ทั่วไป มีความเสี่ยงสูงสุด
  • เว็บที่เน้น “รีไรท์ข้อมูล” จากเว็บอื่นจะถูกมองว่าไม่มีคุณค่า”

คำค้นที่เสี่ยงโดนแย่ง Traffic มากที่สุด

  • คำถามทั่วไป (General queries)
  • คำค้นแบบข้อมูลรายงาน (Informational queries)
  • วิธีทำ / วิธีใช้ / ขั้นตอน (How-to)
  • คำถามเปรียบเทียบเบื้องต้น (Basic comparison)

ข้อดีของ AI Overview สำหรับเว็บไซต์ที่ทำดีอยู่แล้ว

ไม่ใช่ทุกเว็บที่กระทบในทางลบ บางเว็บได้ประโยชน์ด้วย เช่น:

  • หากเว็บมีข้อมูลคุณภาพสูง โอกาสถูกนำไปอ้างอิงใน AI Snippet จะมากขึ้น
  • Website ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Expert-based Content) จะโดดเด่นขึ้นมาก
  • คอนเทนต์ที่ให้ “ประสบการณ์จริง” (Experience Content) จะมีคะแนนสูงกว่า

ข้อเสียที่ต้องระวัง

  • AI อาจสรุปข้อมูลผิด ถ้าเว็บต้นทางข้อมูลไม่ชัด
  • เว็บทั่วไปที่ไม่มีเอกลักษณ์อาจ “หายไปจากการค้นหา”
  • เนื้อหาที่ไม่มีตัวตน/บุคคลจริงรองรับ (No Author) อาจไม่ติดอันดับอีกต่อไป

แล้วต้องทำ SEO แบบใหม่อย่างไร? (กลยุทธ์ปี 2025)

ทำคอนเทนต์แบบ E-E-A-T ให้เข้มข้นที่สุด

Google เน้น “ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์จริง”เนื้อหาต้องแสดงว่า “คุณเคยทำจริง ไม่ได้ลอกมาเขียน”

ตัวอย่าง:
❌ ห้าม: บทความสุขภาพที่เขียนโดยนักเขียนทั่วไป
✅ ควร: บทความสุขภาพที่มีคำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญจริง

E-E-A-T ย่อมาจาก Experience, Expertise, Authoritativeness, และ Trustworthiness เป็นแนวคิดที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพเนื้อหาและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ โดยเฉพาะคอนเทนต์ที่มีผลต่อผู้อ่าน เช่น สุขภาพ การเงิน กฎหมาย ฯลฯ

ใช้โครงสร้างข้อมูล (Structured Data) และ Schema ให้ครบ

เพื่อให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ มีผลมากต่อการแสดงผลแบบ AI Overview ควรใช้

  • FAQ Schema
  • How-to Schema
  • Product Schema
  • Review Schema
  • Organization Schema

Schema (สคีมา) คือ โครงสร้างข้อมูลที่ใช้บอกความหมายและความสัมพันธ์ของข้อมูล ให้ระบบคอมพิวเตอร์หรือเสิร์ชเอนจินเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ทำคอนเทนต์ที่ AI ทำแทนไม่ได้

เน้น 3 ประเภท:

  • ✔ ประสบการณ์จริง (Experience)
    เช่น รีวิวสินค้าจากการใช้งานจริง
  • ✔ ความเห็นเชิงผู้เชี่ยวชาญ (Expert Opinion)
    เช่น การวิเคราะห์ตลาด
  • ✔ คอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม (Niche Content)
    เช่น เทคนิคขั้นสูงที่คนทั่วไปไม่รู้

เน้น “คอนเทนต์ต่อยอด” มากกว่า “คอนเทนต์ทั่วไป”

AI จะตอบคำถามง่าย ๆ ให้หมดแล้ว สิ่งที่ยังคงได้ Traffic คือ:

  • เคสศึกษา (Case Study)
  • วิธีแก้ปัญหาเจาะลึก
  • คู่มือเฉพาะทาง
  • เนื้อหาที่ต้องใช้ประสบการณ์และการลงมือทำ

ความเร็วเว็บไซต์ = ความได้เปรียบ

Core Web Vitals สำคัญกว่าที่เคย เว็บต้องเร็ว โหลดไว ปลอดภัย (SSL)

ปรับ SEO ให้รองรับ AI Search โดยตรง

  • ปรับรูปแบบคำตอบให้ “อ่านง่ายแบบที่ AI ดึงไปใช้ได้”
  • ใช้หัวข้อชัดเจน (H2–H3)
  • ตอบคำถามแบบเจาะจง
  • สรุปข้อมูลท้ายบทความให้ AI นำไปใช้ง่าย

ตัวอย่างเว็บที่จะยังได้ Traffic สูงในยุค AI Overview

  • เว็บรีวิวที่มีรูปภาพจริง VDO จริง
  • เว็บที่มีผู้เชี่ยวชาญเขียนคอนเทนต์
  • เว็บเชิงวิเคราะห์ เช่น ตลาดหุ้น, อสังหา
  • เว็บที่ตอบคำถามลึกกว่า AI Overview
  • เว็บองค์กร/แบรนด์ที่มีข้อมูลต้นทางเฉพาะทาง

AI Overview เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของโลก SEO ในรอบ 10 ปี
แต่ไม่ได้แปลว่า SEO “ตายแล้ว” มันเพียงแค่ เปลี่ยนกติกาใหม่

เว็บไซต์ที่ยังทำเนื้อหาทั่วไปเหมือนเดิม อาจเสีย Traffic จำนวนมาก
แต่เว็บไซต์ที่เน้น “คุณภาพ เนื้อหาเชิงลึก และความเชี่ยวชาญ” จะได้ผลดีขึ้นกว่าเดิม
สิ่งสำคัญคือ

  • 👉 ต้องปรับตัวให้เร็ว
  • 👉 ทำคอนเทนต์ที่ AI ทำแทนไม่ได้
  • 👉 ทำเว็บไซต์ให้เร็ว ปลอดภัย และมีโครงสร้างข้อมูลถูกต้อง

เว็บไซต์ที่เตรียมตัวได้ก่อน = ชนะก่อนในอนาคต

hostatom ให้บริการ Web Hosting ความเร็วสูง, Cloud Hosting, SSL Certificate, และบริการดูแลเว็บไซต์ WordPress เพื่อรองรับ Core Web Vitals และความปลอดภัยตามมาตรฐาน Google พร้อมบริการ Google Workspace สำหรับธุรกิจที่ต้องการระบบอีเมลและเครื่องมือทำงานแบบมืออาชีพ

Was this article helpful?

Related Articles